‘ยาอีหมีพูห์’ ยาอีรูปแบบใหม่ ใช้เป็นเสียสาว-ปลุกเซ็กส์ ออกฤทธิแรงถึงตาย

‘ยาอีหมีพูห์’ ยาอีรูปแบบใหม่ ใช้เป็นเสียสาว-ปลุกเซ็กส์ ออกฤทธิแรงถึงตาย

ตำรวจตั้งโต๊ะแถลงหลับยึด ยาอีหมีพูห์ หรือ ยาอีหลีเหมือง ยาเสพติดใช้เป็นยาเสียสาว ปลุกเซ็กส์ เผยออกฤทธิแรงถึงตายได้ นายปิตานนท์ ปัญญา นายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายนายได้รวมตั้งโต๊ะแถลงถึง ยาอีหมีเหลือง หรือ ยาอีหมีพูห์ พร้อมกับยานอนหลับ รวมกว่า 70,000 เม็ด หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถยึดยาเสพติดได้บริเวณริมโขง ในพื้นที่ บ้านคำผักแพรว ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่กระเป๋าเดินทาง สีดำ จำนวน 1 ใบ 

มาพักไว้ริมฝั่งน้ำโขง เมื่อตรวจสอบพบว่ามียาอีหมีเหลืองจำนวนมาก คาดว่า ผู้กระทำผิดนำข้ามมาจาก สปป.ลาว เพื่อนำมาพักก่อนลำเลียงขนส่งเข้าพื้นที่ตอนในของไทย ก่อนหลบหนี

จากการตรวจสอบ ยาอีหมีพูห์ นี้พบว่า เป็นยาอีรูปแบบใหม่ที่ถูกอัดมาในรูปแบบของ หมีพูห์ บรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 19 ห่อ ตรวจนับได้ จำนวน จำนวน 18,807 เม็ดนอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดยานอนหลับชนิดรุนแรง อีกจำนวนมาก บรรจุเป็นแพคเกจแผงพลาสติก สีเขียว จำนวน 34,949 เม็ด กับแผงสีแดง จำนวน 19,990 เม็ดรวม 2 ชนิด จำนวน 73,746 เม็ด โดยมีการตรวจสอบสารออกฤทธิ์เบื้องต้น ก่อนนำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบแบบละเอียดอีกครั้ง

เบื้องต้นพบว่า ยาอีการ์ตูนหมีพูห์ สารออกฤทธิ์พบว่าเป็นสารเพติดตัวยาลักษณะคล้ายยาบ้า เป็นยาเสพติดประเภท 1 เช่นกัน แต่จะออกฤทธิ์รุนแรงมากกว่า จะเน้นความมึนเมาเพื่อให้เคลิ้มเชิงสันทนาการ โดยจะมีการเสพเข้าร่างกายได้หลายรูปแบบ ทั้งกิน ผสมน้ำ แล้วแต่ความชอบกลุ่มผู้เสพ อีกทั้งยังสันนิษฐานว่า ยาออกฤทธิ์ประเภท 2 หรือยานอนหลับ ที่ตรวจยึดคู่กัน เชื่อว่าจะนำมาใช้เสพคู่กันเพื่อให้ออกฤทธิ์รุนแรง มากขึ้น เน้นสำหรับกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มนักเสพยาเสพติด ที่เน้นเสพเพื่อความบันเทิง

แต่จะมีความเสี่ยงออกฤทธิ์หลอนประสาทมากกว่ายาบ้า โดยยานอนหลับชนิดรุนแรงมีชื่อ เป็นภาษาอังกฤษว่า Nimetazepam ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้หลับ เป็นยาต้องห้าม ไม่มีในบัญชียาของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงไม่มีการผลิตในไทย ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่ามาจากทางยุโรป

อย่างไรก็ตามจะได้ส่งไปตรวจสอบเพื่อเป็นข้อมูลโดยละเอียด ที่สำคัญ ถือว่า ยาทั้ง 2 ชนิดเป็นยาเสพติดที่เป็นอันตราย วัยรุ่นหรือบุคคลทั่วไปไม่ควรทดลองเสพ อาจมีการออกฤทธิ์รุนแรง ขึ้นประสาทหลอน หรือเสียชีวิต

การบุกยึดยาอีหมีพูดในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่มีการตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ดังงกล่าว โดยเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลหาผู้นำเข้ายาเสพติดต่อไป

สาวถูก ลุง 60 คบซ้อน โผล่แจ้งความเพิ่ม รู้เป็นเมียคนที่ 13 ตอนเห็นข่าว

สาวถูก ลุงวัย 60 หลอก คบซ้อน โผล่เข้าแจ้งความเพิ่ม รายล่าสุด ตอนเห็นข่าวถึงรู้ ว่าตัวเองเป็นเมียน้อยคนที่ 13 ยังไม่จบ กรณี ลุง 60 หลอกสาว 12 คน ที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ ล่าสุด ทนายรัชพล ศิริสาคร ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าววันนี้ (18 ก.ค.65) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) กรุงเทพฯ ระบุ หลังจากได้พาผู้เสียหายจำนวน 3 ราย เข้าแจ้งความเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีถูกชายวัย 60 ปี หลอกคบซ้อน โดยไม่รู้ตัว

ทนายความรัชพล ยังกล่าวถึงประเด็นพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความในวันนี้ด้วยว่า ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันหากเกิดกรณี ภรรยาหลวงฟ้องเอาผิด ฝั่งลูกความของตนจะได้มีหลักฐานไว้ต่อสู้คดีกลับ ขณะเดียวกันในส่วนของตัวเลขหญิงสาวผู้เสียหายที่ก่อนหน้ามีรายงานว่า พบหญิงสาวจำนวน 12 คนที่ถูกฟหลกคบซ้อน ล่าสุดข้อมูลจากทนายรัชพล อัปเดตความคืบหน้า ตอนนี้ผู้เสียหายรายที่ 13 ได้โทรเข้ามาขอปรึกษาแล้ว ภายหลังไม่รู้ตัวมาก่อนว่า ตกเป็นเหยื่อ ลุง 60 หลอกหญิง กระทั่งมาเห็นข่าวที่มีการนำเสนอกันครึกโครม

โดยหญิงผู้เสียหายรายล่าสุดที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกหลอก เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เธอเริ่มคบหากับชายผู้นี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่มาทราบภายหลังว่าถูกหลอก หลังเรื่องกลายเป็นข่าวดัง โดยเพื่อนทักเข้ามาถามในไลน์กลุ่มว่า ผู้ชายใช่คนเดียวกับ ลุง 60 ที่เป็นข่าว ที่คบกันอยู่หรือไม่ ?เพราะรูปที่ลงในข่าวเป็นรูปเดียวกับที่เขาส่งให้เรา และเราเคยส่งให้เพื่อนดู

จากนั้น เพื่อนจำได้ว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน ก็เลยความแตกขึ้นมา ตัวของผู้เสียหายจึงซักถามถาม แต่ฝ่ายชายคบซ้อนไม่ยอมรับ ล่าสุดไม่สามารถติดต่อได้ โดยผู้เสียหายคาดว่าคงจะมีการบล็อกช่องทางสื่อสารทั้งหมดแล้ว

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวล่าสุดบนเฟซบุ๊กของ ทนายรัชพล ได้มีการโพสต์ข้ความว่า ทีมเมียน้อย (ตกเป็นเมียน้อยโดยไม่รู้ตัว) ผมรับคดีนี้มา วันนี้ผมดูแลผู้เสียหายพามาแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีความหากจะมีการฟ้องร้องคงว่ากันต่อไปนะครับ ทั้งนี้ในส่วนการดำเนินคดีเอาผิดกับชายคนดังกล่าว ทนายรัชพล ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก

ขณะที่ผู้ก่อเหตุนั้น ยังอาการสาหัสใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น และยังไม่สามารถให้ปากคำได้ โดยต้องรอให้คนร้ายอาการดีขึ้นและจะทำการสอบปากคำและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป